0%

น้ำหมักชีวภาพ และปุ๋ยหมัก คือหัวใจสำคัญของการปลูกผักที่จะทำให้ผักในแปลงเติบโตงอกงาม มีรสชาติหวานกรอบอร่อย ซึ่งเจ้าของฟาร์มผักเล็กๆ หลายท่านยืนยันว่าปุ๋ยอินทรีย์ให้ประโยชน์มากมายจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักใช้น้ำหมักชีวภาพสำหรับให้ปุ๋ยทางใบ และผสมปุ๋ยหมักเพื่อให้ทางดิน

น้ำหมักชีวภาพ คือปุ๋ยอินทรีย์อีกประเภทที่ได้รับความนิยมใหมู่คนปลูกมากกันมาก เหมาะสำหรับให้ปุ๋ยทางใบและทางดิน  แบ่งตามประเภทวัตถุดิบที่ใช้หมัก 3 ชนิด คือ

1. น้ำหมักชีวภาพ จากพืช แบ่งย่อยได้อีก 2 คือชนิดที่ใช้ผักและเศษพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรหลังการเก็บ เป็นน้ำข้นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม  และชนิดที่ใช้ขยะเปียก เป็นน้ำหมักที่ได้จากขยะในครัวเรือน เช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้ำหมักที่ได้มีลักษณะข้นสีน้ำตาลจางกว่าชนิดแรก และมีกลิ่นหอมน้อยกว่า

2.น้ำหมักชีวภาพ จากสัตว์ เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษเนื้อต่างๆ เช่น เนื้อปลา เเละเนื้อหอยจะมีสีน้ำตาลเข้ม มักมีกลิ่นเหม็นมากกว่าน้ำหมักผักและต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม

น้ำหมักชีวภาพ ผสม เป็นน้ำหมักที่ได้จากการหมักพืช และเนื้อสัตว์รวมกัน ส่วนมากมักเป็นแหล่งที่ได้จากเศษอาหารในครัวเรือนเป็นหลัก

สำหรับคนที่เริ่มต้นปลูกผัก อาจจะยังสับสนกับสูตรการทำน้ำหมักและปุ๋ยหมัก ซึ่งพัฒนาปรับปรุงไปไกลกว่าสูตรพื้นฐานเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งสารเคมี วันนี้บ้านและสวนได้รวมสูตรการทำปุ๋ยอินทรีย์ไว้ให้เลือกใช้กัน จากแหล่งที่มาที่หลากหลาย นำไปปรับใช้ตามความเหมาะสมหรือจะพัฒนาไปเป็นสูตรของตนเองก็ได้เช่นกัน

น้ำหมักผลไม้

บำรุงต้นช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี คิดค้นโดยรศ.ดร.จุรีย์รัตน์ ลีสมิทธิ์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน

ส่วนผสม

ฝรั่ง 64 กก., มะละกอ 8 กก., แตงไทย 8 กก., กากน้ำตาล 20 กก., น้ำ 20 ลิตร, สารเร่ง (พด.2) 2 ซอง

วิธีทำ

หั่นผลไม้ให้เป็นชิ้นเล็ก ใส่ถังหมักขนาด 120 ลิตร ละลายกากน้ำตาลในน้ำสะอาด 20 ลิตร ใส่ พด.2 คนให้เข้ากัน เทส่วนผสมทั้งหมดใส่ถังหมัก ปิดฝาถังให้แน่น เปิดฝาคนทุก ๆ 3 วัน เมื่อครบ 45 วัน นำมากรองด้วยผ้ามุ้งสีฟ้า เอาเฉพาะน้ำจะได้น้ำหมักชีวภาพ 100 ลิตร

วิธีใช้

ใช้น้ำหมักผสมน้ำ ในอัตรา 1:500 รดผักจนถึงเก็บเกี่ยวทุกสัปดาห์ นำเมล็ดพันธุ์มาแช่จะงอกเร็วขึ้น 20-30% รากยาวกว่า ต้นกล้ายาวกว่าการงอกแบบธรรมดา

น้ำหมักปลา สูตรกรมพัฒนาที่ดิน

บำรุงต้น ช่วยให้ออกดอกเร็ว บำรุงต้นก่อนออกดอกช่วยให้ออกดอกเร็ว เก็บผลผลิตได้เร็ว ได้ผลผลิตปริมาณที่มากขึ้นและมีคุณภาพดี ลงทุนน้อช่วยลดต้นทุนในการผลิตและสามารถผลิตไว้ใช้เองในครัวเรือน ไม้ผลจะมีรากแข็งแรง ใบสวย ใบใหญ่และยังปรับให้สภาพพื้นที่ดินดี ไม่เสียไม่เปรี้ยวด้วย

ส่วนผสม  

ปลาหรือเศษปลาหมัก 40 กก., กากน้ำตาล 20 กก., หัวเชื้อปุ๋ยหมักซุปเปอร์ พด.2 1 ถุง

วิธีทำ

-หัวเชื้อปุ๋ยหมักซุปเปอร์ พด.1 มาละลายในน้ำอุ่น 20 ลิตร ผสมลงในถังหมัก 200 ลิตร พร้อมปลาหมัก 40 กก. และกากน้ำตา 20 กก. เติมน้ำสะอาด 80% ของถังด้วยแผ่นไนล่อนป้องกันแมลงก่อนปิดฝา หมักไว้ประมาณ 25–30 วัน หมั่นคนอย่างน้อยวันละ 2–3 ครั้ง

วิธีใช้

-พ่นทางใบ ใช้ปุ๋ยน้ำ 1 ลิตรต่อน้ำ 100-150 ลิตรปริมาณการพ่น 7-10 วัน/ครั้ง

-ใช้ราดลงดิน ราดโคน ใช้ปุ๋ยน้ำ 1 ลิตร ต่อน้ำ 50 ลิตรปริมาณการใช้อย่างน้อยปีละ 3-4 ครั้ง หรือ 30-40 วัน/ครั้ง

น้ำหมักฮอร์โมนไข่ สูตรสวนเกษตรดาดฟ้า สำนักงานเขตหลักสี่

เร่งดอกให้ติดดอกได้เร็ว มีความสมบูรณ์

ส่วนผสม

ไข่ไก่ 1 กก. ( 16ฟอง ) ,หัวเชื้อจุลินทรีย์เหง้ากล้วย 1 ลิตร, กากน้ำตาล 1 ลิตร, น้ำมะพร้าวอ่อน 2 ลูก, ลูกแป้ง 1 ลูก

วิธีทำ:

ตอกไข่ไก่ 1 กก. เอาเฉพาะเนื้อไข่ นำส่วนผสมทั้งหมด หัวเชื้อจุลินทรีย์เหง้ากล้วย 1 ลิตร กากน้ำตาล 1 ลิตร น้ำมะพร้าวอ่อน 2 ลูก ลูกแป้ง 1 ลูก มาผสมกันในถังหมัก หมักทิ้งไว้ 30 วัน เป็นอันใช้ได้

วิธีใช้:

-ผสมฮอร์โมนไข่ 2 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 5 ลิตร ฉีดรดต้นไม้ตอนที่ยังไม่ออกดอก

-หากต้นไม้เริ่มออกดอกใช้เพียง 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 5 ลิตร หากใช้มากเกินไปจะทำให้ดอกร่วงได้

การทำปุ๋ยอินทรีย์ต่างๆ

การทำปุ๋ยไว้ใช้เองโดยที่ไม่พึ่งพาสารเคมีทำให้เรามั่นใจได้ว่าปุ๋ยที่เราใส่บำรุงพืชผักที่เราปลูกจะปลอดภัยแน่นอน ซึ่งการทำปุ๋ยนี้นอกจากจะได้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ปลอดภัยแล้วเรายังสามารถนำมาใช้เป็นกิจกรรมยามว่างร่วมกันภายในครอบครัว หรือ ในชุมชนได้อีกด้วย การทำปุ๋ยโดยมีหลักการคือ เลี้ยงดิน ให้ดินเลี้ยงพืช และ ให้พืชเลี้ยงเรา

วิธีการทำปุ๋ยน้ำ

ส่วนผสม

  1. ผลไม้ หรือ ผัก 3 ส่วน
  2. กากน้ำตาล หรือ น้ำตาลทรายแดง 1 ส่วน
  3. หัวเชื้อจุลินทรีย์ 1 ส่วน
  4. น้ำสะอาด 10 ส่วน

วิธีทำ

  1. ใส่ผลไม้ลงในภาชนะทึบแสงมีฝาปิด
  2. ละลายน้ำและกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดงให้เข้ากัน และเติมลงในภาชนะใส่ผลไม้ที่เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ คนให้ทั่ว
  4. ปิดฝาให้สนิทเก็บให้มิดชิดในที่ร่ม
  5. ทิ้งไว้ 3 เดือน และเปิดใช้งาน

*สัดส่วนการใช้
1/500 : สำหรับไม้ที่มีใบบาง
1/200 : สำหรับไม้ที่มีใบหนา หรือไม้ผล
1/200 : ปรับปรุงบำรุงดิน
1/100 : ไล่แมลงวัน
1/10 + เกลือ : ฆ่าหญ้า
แบบเข้มข้น : ราดชักโครงหรือพื้นห้องน้ำเพื่อดับกลิ่น และย่อยสลายสิ่งปฏิกูล

ผลงานการดำเนินการจัดทำปุ๋ยอินทรีของฝ่ายช่างสุขาภิบาล กองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่